มาตรฐานในการออกเเบบระบบไฟฟ้า จะต้องออกเเบบตามมาตรฐานเเละข้อกำหนดต่างๆซึ่งเเบ่งออกได้
เป็น 2 อย่างคือ
- มาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้เา
- มาตรฐานการติ้ดตั้งระบบเเละอุปกรณ์ไฟฟ้า
ซึ่งมาตรฐานเเต่ละอย่างเเบ่งออกได้อีก 2 อย่างคือ
- มาตรฐานประจำชาติ ( National Standards )
- มาตรฐานสากล ( Intarnational Standards )
มาตรฐานประจำชาติสำคัญในโลก ต่างมีมาตรฐานของตนเองมานานเเล้ว
โดยมาตรฐานประจำชาติของเเต่ละประเทศต่างร่างขึ้นมาใช้ภายประเทศตนเอง เพื่อให้ตรงกับอุตสาหกรรมภายใน
ประเทศเเละตรงกับวิธีปฎิบัติ
ของตนเอง นอกจากนี้อยู่กับสภาพภูมิอากาศเเละสภาพเเวดล้อมของประเทศนั้นๆ ด้วย
1. มาตรฐานประจำชาติ
ประเทศต่างร่างขึ้นมาใช้ภายในประเทศของตนเอง เพื่อให้ตรงกับอุตสาหกรรมภายในประเทศและตรง
ทศอุตสาหกรรมที่สำคัญในโลก ต่างมีมาตรฐานของตนเองมานานแล้ว โดยมาตรฐานประจำ
ของตนเอง นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมของประเทศนั้น
- ANSI (American Ntional Stadard Institute)ของประเทศสหรัฐอเมริกา
- BS ( British Standard) ของประเทศสหราชอาณาจักร
- DIN (German Lndustrial Standard) ของประเทศเยอรมันนี
- VDE (Verband Deutscher Elektrotechniker) ของประเทศเยอรมนนี
- JIS (Japanese Industrial Standard) ของประเทศญี่ปุ่น
- มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) ของประเทศไทย TIS (Thailand Industrial Standard)
ประเทศอุตสาหกรรมที่สำ
มาตรฐานสากลเป็นมาตรฐานที่มีสมาชิกอยู่หลายประเทศ เช่น มาตรฐาน 150, IEC และ EN 1150 (International Organization for Standantization) 150 เป็นองค์กรกำหนดมาตรฐานระหว่างการะเทศ มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานทั่ว
ไปทางวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี
ยกเว้นทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์)
โดยมาคงฐานของ 150 จะใช้ผนวก SI จึงเป็นที่นิยมมากลาวาะว่า
เป็นมาตรฐานสากลอย่างแท้จริง มาตรฐานที่รู้จักกันดีได้แก่ 150-2000, 001, 9062) เกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพของ
ผลิตภัณฑ์สินค้า ) 180 14000 (เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ) เป็นต้น 2 EC Intumatunal Electrotectinical Commission) IEC เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ร่างกาตรฐานทางด้านไฟชิ และอิเล็กตรอนิกส์ มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงเจนียก
ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และร่วมมือกับ 190 อย่างใกล้คิด มาลงฐานของ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ตามแนวรินัย
ความเป็นสากลของโลก
และตาะเมื่อ ศิวัดเน้า Globalesion) โดยขณะที่และมีประาทศสมาชิกเกือบทุกประเทศในเยา 3. EN (European Standard) หลายประเทศในทวีปยุโรปได้รวมตัวกันจัดตั้งคณะกรรมการที่มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานทางไฟฟ้าซึ่งเรียกร
CENELEC (European Committe for Elöctrotectifical Stentarization) GENFLES ได้จัดทำมาตรฐานทางไฟฟ้า
ของยุโรป คือ European Standard (EN มาตรฐาน EN เป็นมาตรฐานบังคับ กล่าวคือ ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ได้ตามมาตรฐานนี้ จะนำเข้ามาขายในกลุ่ม
ประเทศสมาชิกไม่ได้ จุดประสงค์ของมาตรฐานนี้ คือ ทำให้เกิดการค้าเสรีเพราะถ้าขุปกรณ์ได้มาตรฐานนี้แล้วก็ตามกรณ
นำเข้าขายโต้ทุกประเทศ และนอกจากนี้ยังต้องการให้ทุกประเทศในกลุ่มมีมาตรฐานเดียวกัน ในขณะนี้มาตรฐานประจำชาติ (National Standards) ของชาติอุตสาหกรรมใหญ่ๆ
ได้ลดความสำคัญลงมา ตามโลกาภิวัฒน์ และ เนื่องจากมาตรฐานประจำชาติถือเป็นกำแพงการค้า
( Trade Barrier) อย่างหนึ่ง หลายประเทศ จึงได้พยายามปรับปรุงมาตรฐานประจำชาติของคนเองให้ตรงตามมาตรฐานสากล
เรียกว่า
Harmonization และหลาย ประเทศได้ยกเลิกมาตรฐานของตนเองโดยนำมาตรฐานสากลทั้งฉบับมาใช้เป็นมาตรฐาน
ประจำชาติของตน โดยไม่มีการ
เเปลเป็นภาษาของตนเอง
มาตรฐานอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในระบบไฟฟ้ามีอยู่มากมายหลายชนิด ส่วนมากจะมีมาตรฐานควบคุมคุณภาพอยู่แล้ว โดยมาตรฐาน
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่นิยมใช้กันมาก คือ มาตรฐานของ IEC จะสังเกตได้จากแคตตาล็อกของอุปกรณ์ไฟฟ้า
จะอ้างถึงมาตรฐานนี้อยู่เสมอ เช่น
เซอร์กิตเบรกเกอร์ จะอ้างมาตรฐาน IEC 60947-2" Low Voltage Switchgear and Control Gear Part 2 ดังนั้น
สำหรับผู้ออกแบบระบบไฟฟ้าในประเทศไทย ในการเขียนรายละเอียดข้อกำหนด (Specification)
ของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ควรใช้มาตรฐานไทย
(มอก.) และมาตรฐาน IEC เป็นหลัก ไม่ควรใช้มาตรฐานประจำชาติของ ประเทศอื่น ยกเว้นอุปกรณ์ดังกล่าวไม่มี
ในมาตรฐานไทยและมาตรฐาน IEC
มาตรฐานการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้า
มาตรฐานการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้า อาจแบ่งออกเป็น
- มาตรฐานต่างประเทศ
- มาตรฐานสากล
- มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย
1 มาตรฐานต่างประเทศในการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้า
มาตรฐานต่างประเทศที่นิยมใช้กันมากในประเทศไทย คือ NEC (National Electrical Code)
ซึ่งเป็นมาตรฐาน การออกแบบติดตั้ง
ระบบ และอุปกรณ์ไฟฟ้าของประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มมีครั้งแรกตั้งแต่ปี 1897 และมีแก้ไขปรับปรุง ทุกๆ 3 ปี
จึงนับได้ว่าเป็น
มาตรฐานการออกแบบและติดตั้งที่สมบูรณ์มาก มาตรฐาน NEC ได้แพร่เข้ามาในประเทศไทย
อย่างมากในช่วงที่ประเทศ
สหรัฐอเมริกามีฐานทัพในประเทศไทย วิศวกรไฟฟ้าของไทยส่วนมากจึงนิยมใช้ NEC
เป็นพื้น ฐานในการออกแบบ และติดตั้งระบบไฟฟ้า
แม้ว่า NEC จะเป็นมาตรฐานที่ดีมาก ทำจากประสบการณ์ซึ่งมีอยู่มากมายในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก็
มีข้อกำหนดที่
วิศวกรไฟฟ้าไทยต้องอ่านและทำความเข้าใจอย่างระมัดระวัง เพื่อให้การประยุกต์ใช้เป็นไปอย่างถูกต้อง เนื่องจา
กระบบต่างๆ ที่ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาตาม NEC นั้น มีข้อแตกต่างจากระบบที่ใช้ภายในประเทศไทยหลาย
อย่างด้วยกัน ดังนี้
แม้ว่า NEC (รวมทั้งมาตรฐานอย่างอื่นของสหรัฐอเมริกา เช่น ANSI) จะเป็นมาตรฐานที่ดีมาก แต่เนื่องจาก
ระบบ และมิติต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้วมีใช้เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ผู้เขียนจึงมีความเห็นว่ามาตรฐาน NEC
คงจะ เสื่อมความนิยมไปอย่างช้าๆ และในที่สุดก็อาจมีใช้อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือ
ประเทศ สหรัฐอเมริกาต้องปรับปรุงมาตรฐาน NEC ของตนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
2. มาตรฐานสากลในการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้า
เนื่องจากหลายๆ ประเทศโดยเฉพาะประเทศในทวีปยุโรปมีมาตรฐานการติดตั้งระบบ และอุปกรณ์ไฟ เป็นของตนเอง
ซึ่งจะมีความแตกต่างในรายละเอียดต่างๆ
เป็นอย่างมาก ดังนั้น International Electrotechnical ซึ่งจะมีความแตกต่างในรายละเอียดต่างๆ เป็นอย่า Commission
(IEC) จึงได้จัดทำมาตรฐาน
เกี่ยวกับการติดตั้งระบบ และอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นในปี 1972 คือ IEC 60364
- Electrical Installation of Buildings" ซึ่งมีหลายฉบับ ได้แก่
IEC 60364-1
"Scope, Object and Definitions"
IEC 60364-2
"Fundamental Principles"
IEC 60364-3
"Assessment of General Characteristics"
IEC 60364-4
"Protection for Safety"
IEC 60364-5
* Selection and Erection of Electrical Equipment"
IEC 60364-7
"Requirement for Special Installations or Locations
ในการจัดทำมาตรฐาน IEC 60364 นี้ คณะกรรมการฝ่ายเทคนิคผู้ร่างได้ใช้มาตรฐานการติดตั้งระบบแล
อุปกรณ์ไฟฟ้าของหลายประเทศเป็นตัวอย่างรวมทั้ง NEC ด้วยเพื่อให้มาตรฐานที่ได้เป็นสากล
และสามารถปฏิบัติได้
มาตรฐาน IEC 60364 นี้ได้รับการแก้ไข และปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในขณะนี้ประเท
ในทวีปยุโรปหลายประเทศ ได้นำมาตรฐานนี้มาใช้กันแล้ว โดยเฉพาะประเทศสหราชอาณาจักร (United Kingdom
ได้เลิกใช้มาตรฐานของตนเอง ซึ่งมีมานับร้อยปี โดยหันมาใช้ IEC 60364 แทน ตั้งแต่ปี 1983 คือ
Regulation for Electrical installation ของ The Institute of Electrical Engineers (IEE)
3. มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย
การติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยนั้น ในอดีตการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
ต่างมีมาตรฐานของตนเอง ข้อกำหนดส่วนมากจะเหมือนกัน แต่ก็มีบางส่วนที่ต่างกันทำให้ผู้ออกแบบระบบ ไฟฟ้าและ
ผู้ติดตั้งระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าเกิดความสับสน ด้วยเหตุนี้สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เสถานแห่งประเทศไทย
(วสท.) ด้วยความร่วมมือจากการไฟฟ้าทั้งสองแห่งดังกล่าวได้จัดทำ “ มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย
ขึ้นเพื่อให้ทั้งประเทศมีมาตรฐานเรื่องการติดตั้งทางไฟฟ้าเพียงฉบับเดียว มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า สาหรับประเทศไทย
ฉบับใหม่ คือ ฉบับ พ.ศ. 2564
มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยฉบับใหม่นี้ เนื้อหาส่วนมากจะแปลและเรียบเรียงจา National Electrical Code
(NEC) และก็มีความพยายามที่จะนำมาตรฐานของ IEC มาใช้ด้วย โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกั อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น
เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่ใช้จะต้องได้มาตรฐาน IEC 60898 และ IEC 60947-2 เป็นต้น
หนังสือ “ การออกแบบระบบไฟฟ้า " ฉบับที่ผู้อ่านกำลังอ่านอยู่นี้ได้ทำตามข้อกำหนดต่างๆ ของมาตรฐา
การติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยอย่างเคร่งครัด แต่มีบางส่วนจะทำดีกว่ามาตรฐานตามข้อแนะนำจากหนังสือเล
ยืนและจากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง ผู้ที่สนใจเรื่องการออกแบบระบบไฟฟ้าและการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า
ควรจะต้องมีหนังสือมาตรฐานการติดตั้ง ทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยไว้ใช้ประโยชน์