ตู้ Capacitor Bank หรือ
Power Factor Correction Cubicles คืออะไร ??
ตู้คาปาซิเตอร์ ( Capacitor Bank ) หรือ ตู้แคปแบงค์ ( Cap Bank ) ใช้ สำหรับควบคุมค่า PF (Power Factor)
และกำลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ (QC) ให้ได้ตามความต้องการที่ได้ออกแบบไว้
Capacitor เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าทีทำหน้าที่ ปรับปรุงค่า PF (Power Factor) และช่วยจ่าย Reactive Power เพื่อชดเชยกับระบบไฟฟ้า
Capacitor มีราคาถูกกว่าเครื่องจักรกลซิงโครนัส , ติดตั้งง่าย , กำลังสูญเสียในตัวเองต่ำ (0.5 w / kVAR)
การติดตั้ง Capacitor ขนานเข้าไปในระบบไฟฟ้าเพื่อปรับปรุงตัวประกอบกำลังไฟฟ้า (Power Factor) ให้สูงขึ้น
ประโยชน์ ของ ตู้ Capacitor Bank มีดังนี้
1. ลดค่ากำลังไฟฟ้าสูญเสีย (Reactive Power)
2. ลดค่ากระแสไฟฟ้าสูญเสียที่ไหลอยู่ ในระบบไฟฟ้า
3. ลดแรงดันไฟฟ้าตกในระบบไฟฟ้า (Voltage Drop)
4. เพิ่มขีดความสามารถในการรับ-จ่ายกาลังไฟฟ้าได้ มากยิ่งขึ้น, เพิ่มโหลด
5. ลดค่าปรับค่า Power Factor จากการไฟฟ้าฯ
6. ช่วยลดค่าไฟฟ้าที่สูญเสียไปในรูปของความร้อนในสายไฟและหม้อแปลงการติดตั้ง Capacitor Bank จะช่วยลดกำลังสูญเสียในสายไฟและหม้อแปลงไฟฟ้า จึงเป็นการประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังลดความร้อนที่เกิดขึ้นในอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆได้
หม้อแปลงขนาดเท่าไรถึงจะต้องติดตั้ง Capacitor Bank เพื่อปรับปรุงค่า Power factor ??
>> ต้องพิจารณาดังนี้ >>
การไฟฟ้าจะเริ่มคิดค่าปรับกรณีค่า Power factor ก็ต่อเมื่อเป็นผู้ใช้ไฟมีเงื่อนไขครบทั้ง 2 ดังต่อไปนี้ ถึงจะโดนปรับ
1. เป็นผู้ใช้ไฟประเภทที่ 3 ขึ้นไป คือ ผู้ใช้ไฟตั้งแต่กิจการขนาดเล็กขึ้นไป โดยผู้ใช้ไฟตั้งแต่กิจการขนาดเล็กขึ้นไป หมายถึง ผู้ใช้ไฟที่ความต้องการพลังงานไฟฟ้า (Demand) ตั้งแต่ 30kW ขึ้นไป (อันนี้คือความต้องการใช้ไฟที่เฉลี่ยใน 15 นาทีสูงสุดในรอบเดือน ไม่ใช่ค่าพลังงานการใช้ไฟฟ้า เพราะพลังงานการใช้ไฟมีหน่วยเป็นยูนิต คือ kW x ชั่วโมงการใช้ไฟ ไม่เหมือนกับค่าความต้องการการใช้ไฟ)
2. เมื่อความต้องการพลังงานไฟฟ้ารีแอคตีฟ Kva เฉลี่ยใน 15 นาทีสูงสุด เกินกว่า 61.97% ของความต้องการพลังงานไฟฟ้า KW เฉลี่ยใน 15 นาทีสูงสุด
(หาก ค่า Q สูงกว่าค่า P เกิน 61.97% หรือคิดเป็นค่า Power factor ต่ำกว่า 0.85 จะโดนค่าปรับจากการไฟฟ้า)